ขับเคลื่อนโดย Blogger.
RSS
Post Icon

เคล็ดลับ : การเลือกซื้อเครื่องสำอาง

Photobucket



ในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเพศใดวัยใดก็ตาม มักจะนิยมใช้เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิวต่างๆ เป็นประจำอยู่เสมอใช่มั๊ยล่ะคะ เพราะนอกจากจะเพิ่มความมั่นใจ ส่งเสริมบุคลิกภาพของคุณแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวพรรณของคุณให้ดีขึ้นได้อีกด้วย ใครจะยอมล่ะ ให้คนรอบข้างทักว่า “เฮ้ย!! ทำไมวันนี้โทรมวะ หรือ ไม่เจอกันนาน แก่ลงเยอะนะ” มันช้ำ TT^TT แล้วสมัยนี้ก็มีเครื่องสำอางที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ มาล่อใจเราสารพัด ในเมื่อต้องใช้เครื่องสำอางอยู่ทุกวัน เราก็ควรจะรู้ถึงวิธีการเลือกเครื่องสำอางอย่างปลอดภัย เพื่อให้เลือกใช้ เลือกซื้อได้อย่างไร้ปัญหา ทั้งในระยะสั้น และยาว ที่อาจจะเกิดกับใบหน้าและผิวของเรา ซึ่งมีเทคนิคในการเลือกง่ายๆ อยู่ 4 ข้อตามนี้จ้า

  1. อย่างแรกเลยต้องดูว่าเป็นเครื่องสำอางเถื่อนมั๊ย ต้องมีการรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เดี๋ยวนี้ อย. เค้าไม่ได้ควบคุมเฉพาะอาหารและยาแล้ว เค้าเข้ามาควบคุมเครื่องสำอางด้วย เพราะฉะนั้น ก่อนซื้อก็ส่องหาเครื่องหมาย อย. บนฉลากซะก่อน ถ้าไม่มีอย่าซื้อเด็ดขาด เพราะเครื่องสำอางที่ไม่ผ่านการตรวจสอบและรับรอง อาจจะมีการผสมสารต้องห้ามที่เป็นพิษต่อร่างกาย ส่งผลร้ายแรงด้านสุขภาพ แถมยังอาจเสียโฉมได้นะคะ


  2. ต่อมาให้ดูวันหมดอายุ วันที่ผลิต โดยทั่วไปเครื่องสำอางมีอายุหลังการผลิตประมาณ 3-5 ปี ก่อนซื้อคิดให้ดีว่าจะใช้หมดมั๊ย วิธีสังเกตเครื่องสำอางหมดอายุ ดูได้จากสีและกลิ่นที่เปลี่ยนไป เนื้อ เครื่องสำอางไม่เหมือนเดิม ส่วนผสมแยกชั้น ถ้าเป็นอย่างนี้คงต้องตัดใจทิ้งไป และอาจเขียนวันที่เราเปิดใช้ครั้งแรกเอาไว้ เพื่อจะได้รู้อายุเครื่องสำอางและเตือนความจำได้ง่ายขึ้น แล้วก็ดูส่วนผสมต่างๆ ซึ่งจะบอกได้ว่าเครื่องสำอางนั้นมีส่วนผสมที่เราแพ้หรือเปล่า เช่น บางคนที่อาจแพ้เครื่องสำอางที่มีน้ำหอม หรือแอลกอฮอล์ เป็นต้น นอกจากนี้อีกส่วนที่เราควรให้ความใส่ใจก็คือบริษัทผู้ผลิต หรือบริษัทนำเข้า ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ถ้าเกิดกรณีที่เราใช้เครื่องสำอางแล้วเกิดอันตรายจะได้โทร.ไปติดต่อสอบถาม หรือร้องเรียนที่บริษัทได้


  3. ต้องให้ความสำคัญกับการอ่านฉลากวิธีใช้ เพราะเครื่องสำอางแต่ละชนิด แต่ละประเภทมีวิธีการใช้ไม่เหมือนกัน เราควรรู้ว่าต้องใช้ในปริมาณเท่าใด กี่ครั้งต่อวัน ต้องใช้ที่จุดไหนของร่างกาย เพื่อให้ใช้ได้อย่างถูกต้อง เช่น ครีมบางตัวทาร่วมกับครีมอย่างอื่นไม่ได้ก็มีนะ ข้อสามนี่ก็เป็นจุดสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลยเหมือนกัน


  4. ทดสอบการแพ้เครื่องสำอางก่อนตัดสินใจซื้อ ไม่ว่าเครื่องสำอางจะแพง มีชื่อเสียง หรือได้รับการรับรองจากร้อยแปดสถาบัน ก็อาจจะไม่ถูกกับผิวของเราได้ แล้วอาการแพ้ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เราจึงควรทดสอบก่อน โดยนอกจากจะดูส่วนผสมแล้ว ยังสามารถทดสอบได้ง่ายๆ คือการทา หรือฉีด ลงบริเวณท้องแขน หลังหู หรือผิวเนื้ออ่อนๆ ทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น คัน เกิดรอยแดง ผื่นขึ้น บวม ระคายเคือง หรือแสบร้อน ก็ควรหลีกเลี่ยงทันที เวลาที่คิดจะลองเครื่องสำอางใหม่ๆ ก็ควรจะลองไปทีละอย่าง เวลาแพ้ก็จะได้รู้ว่าแพ้อะไร คราวหลังจะได้หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางตัวนั้น

นอกจากวิธีต่างๆ ที่แนะนำไว้ข้างต้น เพื่อการเลือกซื้อเครื่องสำอางอย่างปลอดภัยนี้แล้ว แหล่งขายเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นที่เคาน์เตอร์ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านค้าต่างๆ รวมถึงตลาดนัด ในปัจจุบันเรายังพบช่องทางการขายเครื่องสำอางออนไลน์ตามเว็บไซต์ต่างๆ มากมาย อย่างไรก็ตาม ในความหลากหลายของแหล่งซื้อขายนี้ย่อมมีทั้งดีและไม่ดี เราก็ควรพิจารณาแหล่งซื้อขายที่มีความน่าเชื่อถือ มีสถานที่ตั้งและช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน มีบริการที่ดีทั้งในระหว่างการขายและหลังการขาย และแน่นอนว่าต้องขายผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ และเป็น
ตัวแทนจำหน่ายแบรนด์นั้นๆอย่างถูกต้อง ซึ่งวิธีพิจารณาต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้เราห่างไกลจากโอกาสเสี่ยงที่เราจะเจอผลิตภัณฑ์ปลอม ไม่ได้มาตรฐาน เกิดการแพ้ และไม่สามารถเรียกร้องความรับผิดชอบจากผู้ขายได้ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถหาซื้อและใช้เครื่องสำอางได้อย่างมั่นใจในความปลอดภัยแล้ว ขอให้สนุกกับการเลือกซื้อเครื่องสำอางนะคะ





  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS